TAWEELAP ROCK 70'

Custom Search

TAWEELAP ROCK RADIO

สวัดดีชาวร็อคทุกท่านครับ

หลังจากบอร์ดพังเป็นครั้งที่เท่าไหร่จำไม่ได้เหมือนกัน ผมกลับมาทำอีกครั้งเพราะใจรักจริงๆจุดประสงค์ที่ทำเว็บนี้ขึ้นมาไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝง เพียงเพื่ออยากแลกเปลี่ยนเพลงกันระหว่างสมาชิกเท่านั้นและอยากแบ่งปันประสบการณ์เพลงในยุคเก่าๆเพื่อไม่ให้เพลงเหล่านี้สูญหายไปจากความทรงจำ บางอัลบั้มก็หาซื้อไม่ได้แล้วและบางอันก็ไม่มีจำหน่ายหรือบางทีราคาก็แพงจนรับไม่ได้ เพลงเหล่านี้มีคุณค่าในตัวมันเองมากมายครับ
ในยุค 60 - 70 วงดนตรีมีมากมายนับไม่ถ้วนแต่ละวงมีเอกลักษ์ของตัวเองชัดเจนมาก เล่นมาจากอารมณ์ข้างในมันสะท้อนอะไรได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตหรือไปจนถึงเรืองยาเสพติด
วงดนตรีสมัยนั้นเกือบ 100% พึ่งยาเสพติดในการแต่งเพลงถึงมันจะเป็นด้านลบแต่ด้านบวกมันได้สร้างสรรญผลงานอันทรงคุณค่าและเป็นเป็นอมตะจนถึงปัจจุบันนี้ครับ
ส่วนของหน้าเว็บผมจะโพสเฉพาะบิทเรท 128-256 เท่านั้น ส่วนแบบ 320 KB จะมีในส่วนของเว็บบอร์ด 320 KB ซึ่งท่านต้องสมัครสมาชิกก่อนถึงจะเข้าห้องได้นะครับ ผมหวังว่าที่แห่งนี้จะอยู่เป็นเพื่อนท่านอีกแห่งนึงนะครับ taweelap ..................... Rock Never Die

History of Rock...!!!

นับตั้งแต่ Bill Haley & His Comets ออกซิงเกิลที่มีชื่อว่า Rock around the clock ในปี 1954 นั้น บทเพลงแนวใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้นมาในวินาทีนั้นเอง กระแสของดนตรีแนวใหม่เปรียบเสมือนระเบิดลูกใหญ่ที่ทำลายวัฒนธรรมของ Jazz, Blues รวมไปถึงงานดนตรีที่บรรดาพ่อแม่ของเด็กหนุ่มสาวในยุค 50 จนพินาศสิ้น หลังจากนั้นไม่นานก็มีบุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งน่าจะถือว่าเป็นผู้ฝังรากของดนตรีแนวใหม่ให้ก่อเกิดขึ้น นั่นก็คือ Alan Freed "Father of Rock 'n Roll" ชายคนนี้คือใคร...? ชายคนนี้คือผู้ให้กำเนิดคำว่า Rock 'n Roll นั่นเอง และชายคนนี้ก็เป็นดีเจที่เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของดนตรี Mainstream ในยุค 50 จนหมดสิ้น คือรายการวิทยุในยุคนั้นไม่มีการนำเพลงของคนดำมาออกอากาศ แต่ Alan ก็นำบทเพลงของคนดำซึ่งกำลังได้รับความนิยมมาออกอากาศสู้กับ Frank Sinatra ของพวกรุ่นใหญ่ได้อย่างเมามันส์... Little Richard, Jerry Lee Luis, Chuck Berry นั่นเอง หลังจากนั้นไม่นาน ชายหนุ่มจากเมมฟิสอีกคนก็ทำให้ดนตรี Rock 'n Roll ขึ้นสูงจนถึงจุดสุดยอด ชายหนุ่มคนนี้มีลีลาที่ไม่เหมือนใคร บทเพลงที่ไพเราะและรูปร่างหน้าตาสุดหล่อ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "The King" Elvis Presley นั่นเอง (อย่าด่า Elvis ต่อหน้าพ่อแม่ตัวเอง เพราะอาจโดนตบได้) หลังจากที่ Elvis โด่งดังจนถึงขีดสุด ซิงเกิลฮิตอันมากมายมหาศาลเพียงไรก็ตาม มันก็ถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง... ... ในต้นยุค 60 ก็มีวงดนตรีอีกวงหนึ่งที่มีความนิยมไม่แพ้ Elvis เลยนั่นก็คือเด็กหนุ่มจากเมือง Liverpool ใครวะ...? บางคนอาจจะถาม เด็กหนุ่มหน้าตาดีกลุ่มนี้ก็คือ The Beatles นั่นเอง The Beatles ได้สร้างปรากฏการณ์ทางดนตรี Rock อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บทเพลงหลากหลายของ The Beatles นั้นขึ้นอันดับหนึ่งอย่างรวดเร็ว และเป็ศิลปินที่มีซิงเกิลขึ้นอันดับหนึ่งมากที่สุดในโลก ความนิยมของ The Beatles ในตอนต้นยุค 60 นั้นก็ทำให้มีวงดนตรีอีกวงหนึ่งที่ถือว่าเป็นด้านมืดของ The Beatles ก็ว่าได้ ภาพของ The Beatles คือดนตรีแห่งสวรรค์ แต่บทเพลงของวงดนตรีอีกวงนั้นก็เป็นด้านนรกไปเลย ภาพลักษณ์อันตรงกันข้ามกับ The Beatles นั้นก็สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเค้ามาจนถึงปัจจุบัน The Rolling Stones นั่นเอง... ในช่วงยุค 60 นั้นวงดนตรีจากฝั่งอังกฤษเข้าบุกถล่มแผ่นดินอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นสูตรสำเร็จของดนตรี ถ้าจะพิสูจน์ตัวเอง ต้องไปดังที่อเมริกาให้ได้ กาลเวลาก็เดินไปเรื่อยๆ จนถึงยุคสงครามเวียดนามระเบิดขึ้น การเรียกร้องสันติภาพ เสรีภาพระบาดรุนแรงไปทั่ว... วงการดนตรีค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ดังบทเพลง The time they are a changin' ของ Bob Dylan ในช่วงปลายๆ ยุค 60 ก็มีการเล่นดนตรีผสมกับยาเสพติดขึ้น... Psychedelic คือคำเรียกของดนตรีแนวนี้... (ซึ่งก็จะรวมไปถึง Progressive, Acid และแนวดนตรีที่มีกลิ่นอายใกล้เคียงกัน) แนวทางของดนตรีในช่วงปลายยุค 60 นั้นสร้างปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ดนตรีลูกผสม" หรือดนตรีแนวทดลองขึ้นมาอย่างกว้างขวาง... หลากหลายบทเพลงมีการนำดนตรีมาผสมกับยาเสพติดกันอย่างรุนแรง... The Doors, The Grateful Dead, King Crimson ซึ่งก็รวมไปถึง Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band ของ The Beatles ที่หันเหไปทางดนตรีแนว Psychedelic อย่างชัดเจน ซึ่งมันก็ทำให้ดนตรี Rock ในยุคปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดกับชายผู้หนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นนักกีตาร์อันดับหนึ่งตลอดกาล... Jimi Hendrix & The Experience นั่นเอง เสียงที่ Jimi Hendrix สร้างขึ้นมาทำให้เค้ากลายเป็นเทพเจ้าในชั่วข้ามคืน หลายบทเพลงของ Hendrix สร้างแรงบรรดาลใจให้กับนักดนตรี Rock ในยุคต่อมาอย่างรุนแรง... ... เข้าสู่ยุค 1970 กันเสียที... หลังจากการเสียชีวิตอย่างกระทันหันของ Hendrix ไปนั้น ดนตรี Rock ก็ยังไม่ถึงกาลดับสูญ... Black Sabbath ได้นำเสียงแตกสั่นและหนักแน่นเข้ามากระแทกหูคนฟังบทพื้นพิภพนี้ เสียงที่ Black Sabbath สร้างออกมานั้นก็สร้างแรงบรรดาลใจให้กับนักดนตรี Rock สาย Thrash Metal, Death Metal และ Black Metal ในยุคหลังๆ ไม่มีใครปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของ Black Sabbath ได้ (นอกจากเกรียน) ยังไม่พอ... Deep Purple ก็สร้างตำนานให้กับตัวเองด้วยเพลง Smoke on the water ที่เป็นท่อน Riff อมตะอีกบทเพลง รวมไปถึงการโซโลกีตาร์และคีย์บอร์ดอันรวดเร็วและเมามันส์ของพวกเค้าก็เป็นพื้นฐานให้ดนตรีในยุคหลังๆ ได้เป็นอย่างดี... นี่เราต้องพูดถึงวงดนตรีอีกวงหนึ่งที่ถือว่าขึ้นหิ้งอันไม่สามารถลบหลู่ได้อีกวง... Led Zeppelin นั่นเอง... บทเพลงที่ Zep สร้างขึ้นมานั้นรวมไปถึงเทคนิคกีตาร์ที่ Jimmy Page สร้างขึ้นมาก็เป็นแรงบรรดาลใจให้กับนักดนตรี Rock ในยุคหลังๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องคิดอะไร ฟังแค่ Stairway to heaven ที่ถือว่าเป็นบทเพลงชาวเมทัลทั้งหลายทั้งปวง... มันยังไม่จบหรอกนะ Michael Schenker ก็สร้างเสียงกีตาร์ของตัวเองออกมาบ้าง Rock Bottom นั้นเปรียบเสมือนระเบิดที่ทำให้วงการดนตรี Rock เปลี่ยนไป... ขอข้ามแนวจาก Hard Rock มายังอีกแนวเพลงนึงที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นั่นก็คือบทเพลงที่พัฒนามาจากแนว Psychedelic นั่นก็คือ Progressive Rock นั่นแหละ... ความซับซ้อนทางดนตรี รวมไปถึงความเป็นอัจฉริยะของนักดนตรีที่สร้างบทเพลงแห่งความล่องลอยและตำนานการติดบิลบอร์ดอันยาวนานของ Dark Side of The Moon โดยศิลปิน Pink Floyd นั้นยังหาใครมาทาบรัศมีได้เลย... ยังมีผู้ใดที่เคลือบแคลงความยิ่งใหญ่ของพวกเค้าอีกไหมถ้ารู้ว่าเค้าสามารถขายงานได้ 250 ล้านแผ่นทั่วโลกเนี่ย...? ดนตรีในยุค 70 ก็มีความหลายหลายและมนต์เสน่ห์เพียงไรถ้าเราได้ฟังงานสุดคลาสสิคของ The Eagles ที่นำเสียงของ Hard Rock เข้ามาผสมกับ Southern Rock กันอย่างลงตัวกับบทเพลง Hotel California ซึ่งก็รวมไปถึงมหากาพย์ของดนตรีอย่างเพลง Freebirds ของ Lynyrd Skynyrd...!!! ยังไม่จบ... ดนตรีที่เรียกกันว่าหัวก้าวหน้าในยุค 70 นั้นเราจะลืม "ราชันต์ในนามราชินี" Queen กับบทเพลง Bohemian Rhapsody ได้เหรอ...? ย้อนเวลาไปช่วงต้นๆ 70 กันอีกครั้งนะ Neil Young & The Crazy Horse, Iggy Pop & The Stooges, New York Dolls และ MC5 ก็สร้างบทเพลงแห่งความก้าวร้าวรุนแรงขึ้นมาบ้าง ซึ่งมันก็เหมือนระเบิดเวลาที่รอวันระเบิด... และมันก็ระเบิดออกมาในช่วงปลายๆ ยุค 70 กับวงดนตรี Sex Pistols (และอีกหลายๆ วง) นั่นก็คือแนวดนตรีที่เรียกว่า Punk นั่นเอง แนวดนตรี Punk นั้นสร้างความนิยมอย่างรุนแรงส่งผลกระทบต่อ Hard Rock อย่างมาก จนทำให้แนวดนตรี Hard Rock แทบจะสูญสลายไปเลย แต่มันก็ยังไม่ตายเสียทีเดียวหรอกนะ ดนตรีที่กำเนิดขึ้นมาในช่วงปลายๆ ยุค 70 นั่นก็คือ New Wave of British Heavy Metal นั่นเอง...!!! ... ช่วงรอยต่อของยุค 70 กับ 80 นั้นงานดนตรีมีการฑัฒนาไปอย่างรวดเร็ว วงดนตรีที่เรียกตัวเองว่าเป็น NWOBHM ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนทำให้ดนตรี Punk กลายพันธ์ไป (จะกล่าวถึงภายหลัง) หัวหอกของดนตรีแนว NWOBHM ก็มีเช่น Iron Maiden, Judas Priest, Motor Head, Diamond Head, Def Leppard และถ้าเราไม่นับชายคนนี้ก็ไม่ได้ Ozzy Osbourne ชายผู้ที่ยืนอยู่บนยอดสุดของพีรามิดแห่ง Metal นั่นเอง หลากหลายบทเพลงที่ Ozzy Osbourne Band สร้างขึ้นมาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับดนตรี Rock เป็นอย่างสูง ซึ่งผนวกกับนักกีตาร์โนเนมแต่ฝีมือระดับเทพอย่าง Randy Rhodes ทำให้นักกีตาร์หลายคนในยุคต่อมาหันมาหลงไหลกับมนต์เสน่ห์ของเค้ากันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น... เราข้ามไปที่ฝั่งอเมริกากันบ้างนะ... นักกีตาร์ระดับเทพอีกคนก็สร้างความสั่นสะเทือนวงการกับเทคนิกกีตาร์อันแพรวพราว รวมไปถึงการเอนเตอร์เทนคนดู Van Halen นั่นเอง คงไม่จำเป็นที่จะต้องสาธยายความสุดยอดของพวกเขานะ... ดนตรีในต้นยุค 80 นั่นมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีแนวดนตรีเกิดใหม่มากมาย Metallica, Megadeth, Anthrax, Exodus คือพวกแรกๆ ที่นำความหนักหน่วงของ Black Sabbath มาผสมความมันส์สะเด่าของดนตรี Punk และกลิ่นอายอันฉุนกึ้กของ NWOBHM กันจนเกิดแนวดนตรีที่เรียกว่า Thrash Metal นั่นเอง... หลังจากนั้นไม่นาน แนวดนตรี (หลัก) ก็ถือกำเนิดตามมาหลังจาก Thrash Metal นั่นก็คือ Death Metal และ Black Metal นั่นเอง แต่ความรุนแรงในยุค 80 ก็มีอีกแนวดนตรีอีกแนวที่มีความสนุกสนานและหญิงตรึมอย่าง Glam Metal หรือที่เรารู้จักกันดีกับ Hair Metal นั่นเอง Bon Jovi, Skid Row, Cinderella และอีกหลายร้อยวงที่สร้างแฟนเพลงให้กับตนเองอย่างมากมาย ซึ่งก็รวมไปถึง Guns N' Roses นั่นแหละ... ความนิยมของดนตรีแนว Heavy Metal นั้นสุดสะเด่าไปเลย จวบจนถึงช่วงปลายยุค 80 ที่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่นิยมชมชอบความรุนแรง ความบ้าระห่ำของการเล่น รวมไปถึงเสียงอันแตกสนั่นที่มาจากความเรียบง่ายของ Neil Young (ไม่เชื่อก็ไปหาวิดิโอการแสงสดของ Neil Young มาดูแล้วจะรู้ว่าป๋า Neil นั้นเล่นกีตาร์ได้รุนแรงและทำร้ายกีตาร์ขนาดไหนเอาเองเด้อ) นั่นก็คือเหล่าบรรดาเด็กหนุ่มจาก Seattle นั่นเอง Nirvana คือวงดนตรีที่ได้รับคามนิยมอย่างรวดเร็วและรุนแรง การเล่นกีตาร์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเทคนิกอันแพรวพราวเหนือชั้นแบบ Steve Vai หายไป กลิ่นอายของดนตรีที่เรียกตัวเองว่า Seattle Sound หรือ Grunge หรืออะไรต่อมิอะไรมากมาย (มันจะสร้างแนวกันทำไมเยอะแยะวะ จำไม่ไหววุ้ย) ทำให้ดนตรีในยุคปลาย 80 นั้นเปลี่ยนไป... ... ดนตรีในยุค 90 นั้นถือว่าเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย งาน Ten ของ Pearl Jam, Nevermind ของ Nirvana, Use Your Illusion I และ II ของ Guns N' Roses, Metallica (Black Album) ของ Metallica คือตัวอย่างที่น่าจะชัดเจน ซึ่งในยุค 90 นี้เองวงดนตรีที่กำเนิดมานั้นต่างยอมรับว่าตนเองนั้นได้รับแรงบรรดาลใจมาจากรุ่นพี่ รุ่นพ่อในอดีตกันแทบทั้งนั้น มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปหางานของพวกเขามาฟังกันดีๆ จะได้กลิ่นอายของดนตรีในยุคก่อนหน้ากันทั้งนั้น บางวงอาจได้กลิ่นของหลายๆ วงเสียด้วยซ้ำไป... ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจไปถ้าบางวงอาจจะนำเสียงใหม่ๆ เข้ามาสู่ตัวเองและไม่อายที่จะทำถ้ามันทำให้เสียงของตัวเองมีความหลากหลาย อย่างเช่นแนวดนตรี Power Metal, Grindcore, Hardcore, Melodic Metal, Brutal Death Metal, Doom Metal, ฯลฯ ปฏิเสธกันได้ไหมว่าดนตรีที่เกิดมาในยุคหลังๆ นี้ไม่มีการนำเสียงจากอดีตมาทำให้เข้ากับยุคสมัย...? ฉะนั้นแล้วการแบ่งแยกแนวดนตรีน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ เพื่อการฟัง แต่การดูถูกแนวดนตรีที่เราไม่ได้ฟังนั้นเป็นเรื่องตลกมากกว่า ไม่มีดนตรีแนวไหนทำออกมาห่วยหรือดีเลิศประเสริฐศรี ของเหล่านี้แบ่งแยกได้อย่างเดียวคือชอบฟังกับไม่ชอบฟังแค่นั้นเอง ชอบก็ฟังไป ไม่ชอบก็ไม่ต้องฟัง ทำไมต้องดูถูกแนวดนตรีแนวอื่นด้วย ทั้งๆ ที่รากฐานของดนตรีในยุคปัจจุบันนี้ต่างก็มาจากจุดเดียวกันทั้งนั้น ฉะนั้นเราจงมาฟังดนตรีกันอย่างมีความสุขกันเถิด ใครจะฟังเพลงเพื่อสร้างภาพให้กับตัวเองก็ช่างหัวมันประไร...!!!

วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Heavy Mod - ประชาธิปไตย (320 KB)


1. ปรัชญานักการเมือง.mp3 (3:41)
2.หงุดหงิด.mp3 (5:02)
3. แผ่นดินแม่.mp3 (6:30)
4. ประชาฉิปตาย.mp3 (4:39)
5. เสรีภาพ (Jam).mp3 (3:47)
6. กล้วย.mp3 (3:57)
7. เศษหัวใจ.mp3 (5:31)
8. นายศักดิ์...ลูกคนรวย.mp3 (4:40)
9. คุณหัวควาย.mp3 (4:41)
10. ห่วงใย.mp3 (4:49)
หลังจากดังเปรี้ยงปร้างจากชุดแรกแล้วในปี 2538 ทางวงก็คลอดชุดนี้ออกมา
ถึงจะด้อยกว่าชุดแรกอยู่แต่ผมก็ว่ามันยังเจ๋งอยู่ดีครับ
รายละเอียดมากกว่านี้ผมเคยโพสไปแล้วนะลองไปค้นดูนะ
ลิ้งค์อยู่ที่บอร์ด 320 KB ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Asterix - Asterix (1970)

01. Everybody (Bonus Single)
02. If I Could Fly (Bonus Single)
03. Look Out
04. Gone From My Life
05. Broken Home
06. Time Again
07. Jump Into My Action
08. Open Up Your Mind
09. Corner Street Girl
10. Chance In You

Zior - Every Inch A Man (1972)

01. Entrance Of The Devil
02. Chicago Spine
03. Have You Heard The Wind Spear
04. Time Is The Reason
05. She'll Take You Down
06. Dudi Judy
07. Strange Kind Of Magic
08. Ride Me Baby
09. Evolution
10. Every Inch A Man
11. Cat's Eyes
12. Suspended Animation

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

With The Beatles (1963) 320 KB




01 - It Won't Be Long
02 - All I've Got To Do
03 - All My Loving
04 - Don't Bother Me
05 - Little Child
06 - Till There Was You
07 - Please Mister Postman
08 - Roll Over Beethoven
09 - Hold Me Tight
10 - You Really Got A Hold On Me
11 - I Wanna Be Your Man
12 - Devil In Her Heart
13 - Not A Second Time
14 - Money
ลิ้งค์อยู่ที่บอร์ด 320 KB ครับ


วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

UFO - BBC Radio 1 Live In Concert (1974-1980)

1- Letting Go
2- No Place To Run
3- Out In The Street
4- Cherry
5- Only You Can Rock Me
6- Love To Love
7- Mystery Train
8- Lights Out
9- Built For Comfort
10- Rock Bottom
11- Doctor Doctor
12- Shoot Shoot

UFO - Record Plant (1975)

1- Let It Roll
2- Doctor Doctor
3- Oh My
4- Built For Comfort
5- Out In The Street
6- Space Child
7- Mother Mary
8- All Or Nothing
9- This Kids
10- Shoot Shoot
11- Rock Bottom
12- C'mon Everybody

Atomic Rooster - Made in England (1972)

01. Time Take My Life
02. Stand By Me
03. Little Bit Of Inner Air
04. Dont Know What Went Wrong
05. Never To Lose
06. Introduction-Breathless
07. Space Cowboy
08. People You Cant Trust
09. All In Satans Name\close Your Eyes
10. Stand By Me (BBC Radio Sessions) (Bonus Track)
11. Breakthrough (BBC Radio Sessions) (Bonus Track)
12. Save Me (BBC Radio Sessions) (Bonus Track)
13. Close Your Eyes (BBC Radio Sessions) (Bonus Track)
14. Stand By Me (BBC Radio 1 In Concert) (Bonus Track)
15. People You Cant Trust (BBC Radio 1 In Concert) (Bonus Track)
16. All In Satans Name (BBC Radio 1 In Concert) (Bonus Track)
17. Devils Answer (BBC Radio 1 In Concert) (Bonus Track)

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

The Allman Brothers Band - Madness Of The West - 1998

1 Two Rights
2 Never Knew How Much (I Needed You)
3 The Judgement
4 Maybe We Can Go Back To Yesterday
5 The Heat Is On
6 Straight From The Heart
7 Leavin'
8 So Long
9 Brothers Of The Road
10 Keep On Keepin' On
1 Famous Last Words
12 Angeline
13 I Got A Right To Be Wrong
14 From The Madness Of The West
15 Mystery Woman
16 Hell & High Water

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Richie Sambora - Stranger In This Town - 1991

ไม่ต้องอธิบายให้มากความสำหรับชุดนี้ !!!
1. Rest In Peace
2. Church Of Desire
3. Stranger In This Town
4. Ballad Of Youth
5. One Light Burning
6. Mr. Bluesman
7. Rosie
8. River Of Love
9. Father Time
10. The Answer

Jeff Beck - Truth - 1968

1. Jeff Beck - Shapes Of Things (3:17)
2. Jeff Beck - Let Me Love You (4:44)
3. Jeff Beck - Morning Dew (4:43)
4. Jeff Beck - You Shook Me (2:33)
5. Jeff Beck - Ol' Man River (4:01)
6. Jeff Beck - Greensleeves (1:50)
7. Jeff Beck - Rock My Plimsoul (4:14)
8. Jeff Beck - Beck's Bolero (2:55)
9. Jeff Beck - Blues De Luxe (7:33)
10. Jeff Beck - I Ain't Superstitious (4:56)

Flower Travellin' Band - Satori (1971)


01. Satori, Part 1 (5:22)
02. Satori, Part 2 (6:56)
03. Satori, Part 3 (9:40)
04. Satori, Part 4 (10:53)
05. Satori, Part 5 (6:56)

Alice Cooper - School's Out - 1972

1. School's Out
2. Luney Tune
3. Gutter Cats vs. The Jets
4. Street Fight
5. Blue Turk
6. My Stars
7. Public Animal #9
8. Alma Mater
9. Grande Finale

Blackfoot - Strikes - 1979

1. Road Fever
2. I Got A Line On You
3. Left Turn On A Red Light
4. Pay My Dues
5. Baby Blue
6. Wishing Well
7. Run And Hide
8. Train, Train
9. Highway Song

Queen - Kind Of Magic - 1986

01. One Vision
02. A Kind of Magic
03. One Year of Love
04. Pain is So Close to Pleasure
05. Friends Will Be Friends
06. Who Wants to Live Forever
07. Gimme the Prize
08. Dont Lose Your Head
09. Princess of the Universe

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

White Lion - Big Game (320 KB)





1. White Lion - Goin' Home Tonight (4:56)
2. White Lion - Dirty Woman (3:27)
3. White Lion - Little Fighter (4:23)
4. White Lion - Broken Home (4:58)
5. White Lion - Baby Be Mine (4:09)
6. White Lion - Living on the Edge (5:02)
7. White Lion - Let's Get Crazy (4:52)
8. White Lion - Don't Say It's Over (4:03)
9. White Lion - If My Mind Is Evil (4:56)
10. White Lion - Radar Love (5:59)
11. White Lion - Cry for Freedom (6:09)
ลิ้งค์อยู่ที่บอร์ด 320 KB ครับ

David Lee Roth - Diamond Dave - 2003

1. You Got The Blues, Not Me 3:17
2. Made Up My Mind 2:59
3. Stay While the Night Is Young 3:43
4. Shoo Bop 5:11
5. She's Looking Good 2:50
6. Soul Kitchen 4:32
7. If 6 Was 9 3:32
8. That Beatles Tune 3:49
9. Medicine Man 1:12
10. Let It All Hang Out 2:25
11. Thug Pop 3:35
12. Act One 1:33
13. Ice Cream Man 3:23
14. Bad Habits 3:44
http://www.filesend.net/download.php?f=4a833b1cf5a03702f17762de530f6584

Tesla - Times Makin' Changes - The Best Of - 1995

1. Modern Day Cowboy
2. Gettin' Better
3. Little Suzi
4. Heaven's Trail (No Way Out)
5. The Way It Is
6. Love Song
7. Signs (Acoustic)
8. Paradise (Acoustic)
9. Edison's Medicine
10. Song & Emotion
11. What You Give
12. Mama's Fool
13. A Lot To Lose
14. Steppin' Over (Unreleased)
15. Changes

9.0 - Too Far Gone

อีกอัลบั้มหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
1. 9.0 - Gypsy Queen (3:33)
2. 9.0 - Louisiana Overload (3:26)
3. 9.0 - First Of My Generation (4:12)
4. 9.0 - I'm Ready (3:48)
5. 9.0 - Little Sister (4:12)
6. 9.0 - Wish You Still Were Mine (5:58)
7. 9.0 - Hands Up (4:10)
8. 9.0 - 9.0 (3:34)
9. 9.0 - Live For The Moment (4:26)

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Crosby, Stills, Nash & Young - 1970, L.A. Forum

320 KB 92.8 MB
01. Suite: Judy Blue Eyes02. On The Way Home03. Teach Your Children04. Tell Me Why05. Triad06. Guinnevere07. Pre-Road Downs08. Long Time Gone09. Helplessly Hoping10. Southern Man
Line-up/Musicians
Neil Young - vocals, guitar, keyboards- David Crosby - vocals, guitar- Stephen Stills - vocals, guitar, upright bass, keyboards- Graham Nash - vocals, guitar, organ- Calvin Samuels - bass- Johny Barbata - drums
ลิ้งค์อยู่ที่บอร์ด 320 KB ครับ

Fight - War Of Words - 1993

Line-up:
Rob Halford - Vocals
Scott Travis - Drums
Russ Parrish - Guitar
Brian Tilse - Guitar & Keyboards
Jay Jay - Bass
Tracklist:
01-Into The Pit
02-Nailed To The Gun
03-Life In Black
04-Immortal Sin
05-War Of Words
06-Laid To Rest
07-For All Eternity
08-Little Crazy09-Contortion
10-Kill It
11-Vicious
12-Reallity, A New Beginning
All tracks composed by Rob Halford.

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Alcatrazz - Disturbing The Peace - 1985

01. God Blessed Video
02. Mercy0
3. Will You Be Home Tonight
04. Wire And Wood
05. Desert Diamond
06. Stripper07. Painted Lover
08. Lighter Shade Of Green
09. Sons And Lovers
10. Skyfire
11. Breaking The Heart Of The City
Line-up:
Graham Bonnet - vocals
Steve Vai - guitar
Gary Shea - bass
Jan Uvena - drums, percussion and background vocals

Bon Jovi - New Jersey - 1988

1. Lay Your Hands On Me
2. Bad Medicine
3. Born to Be My Baby
4. Living In Sin
5. Blood On Blood
6. Homebound Train
7. Wild Is The Wind
8. Ride Cowboy Ride
9. Stick To Your Guns
10. I'll Be There For You
11. 99 In The Shade
12. Love For Sale
http://www.mediafire.com/?dqbsxgxbdam

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Nelson - After The Rain 1990


01. (Can't Live Without Your) Love And Affection
02. I Can Hardly Wait
03. After The Rain
04. Tracy's Song
5. Only Time Will Tell
06. More Than Ever
07. (It's Just) Desire
08. Fill You Up
09. Interlude
10. Everywhere I Go

The Beatles - Please Please Me (1963). 24 Bit Mastering





THE MILLENNIUN REMASTERS COLLECTION
AUDIOPHILE ARCHIVALRECORDINGS
1. The Beatles - I Saw Her Standing There (2:55)
2. The Beatles - Misery (1:50)
3. The Beatles - Anna (Go To Him) (2:57)
4. The Beatles - Chains (2:26)
5. The Beatles - Boys (2:27)
6. The Beatles - Ask Me Why (2:27)
7. The Beatles - Please, Please Me (2:03)
8. The Beatles - Love Me Do (2:22)
9. The Beatles - P.S. I Love You (2:05)
10. The Beatles - Baby It's You (2:38)
11. The Beatles - Do You Want To Know A Secret (1:59)
12. The Beatles - A Taste Of Honey (2:05)
13. The Beatles - There's A Place (1:52)
14. The Beatles - Twist And Shout (2:33)
ลิ้งค์อยู่ที่บอร์ด 320 KB ครับ

Sepultura - Chaos A.D. (1993)




1. Sepultura - Refuse/Resist (3:20)
2. Sepultura - Territory (4:47)
3. Sepultura - Slave New World (2:55)
4. Sepultura - Amen (4:27)
5. Sepultura - Kaiowas (3:43)
6. Sepultura - Propaganda (3:33)
7. Sepultura - Biotech Is Godzilla (1:52)
8. Sepultura - Nomad (4:59)
9. Sepultura - We Who Are Not as Others (3:42)
10. Sepultura - Manifest (4:49)
11. Sepultura - The Hunt (Originally recorded by New Model Army) (3:59)
12. Sepultura - Clenched Fist (4:57)
13. Sepultura - Policia (2:45)
ลิ้งค์อยู่ที่บอร์ด 320 KB ครับ

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Joe Satriani - The Beautiful Guitar - 1993

Cryin' – 5:42Always with Me, Always with You – 3:22Thinking of You – 3:55The Crush of Love – 4:20I Believe – 5:50Rubina – 5:50Tears in the Rain – 1:16All Alone – 4:21Why – 4:45Echo – 5:33Midnight – 1:42Rubina's Blue Sky Happiness – 6:10Day at the Beach – 2:03Saying Goodbye – 2:53
http://www.filesend.net/download.php?f=592327e5c7c55b5469de3b3d2364c710

MSG - In The Midst Of Beauty - 2008

Line-up:
Michael Schenker - Guitars
Gary Barden - Vocals
Don Airey - Keyboards
Neil Murray - Bass
Simon Phillips - Drums
Tracklist:

City Light
Competition
I Want You
End of the Line
Summerdays
Night To Remember
Wings of Emotion
Come Closer
Cross of Crosses
Nana
The One
This Time
http://www.mediafire.com/?l2yl0vabydc

Megadeth - The World Needs A Hero - 2001

01 Disconnect
02 The World Needs a Hero
03 MotoPsycho
04 1000 Times Good Bye
05 Burning Bridges
06 Promises
07 Recipe For Hate - Warhorse
08 Losing My Senses
09 Dread An The Figitive Mind
10 Silent Storm
11 Return To Hangar
12 When
http://www.badongo.com/file/9247694

Megadeth - Rust In Peace - 1990


1.”Holy Wars…The Punishment Due” — 6:32
2.”Hangar 18″ — 5:14
3.”Take No Prisoners” — 3:26
4.”Five Magics” — 5:40
5.”Poison Was the Cure” — 2:56
6.”Lucretia” — 3:56
7.”Tornado of Souls” — 5:19
8.”Dawn Patrol” — 1:51
9.”Rust in Peace…Polaris” — 5:44
http://www.mediafire.com/?vsy32tahm1o

วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Rory Gallagher - Stage Struck (1980)

1- Shin Kicker2- Wayward Child3- Brute Force And Ignorance4- Moonchild5- Bad Penny6- Key Chain (Bonus Track)7- Follow Me (Bonus Track)8- Bought And Sold9- The Last Of The Independents10- Shadow Play

Wishbone Ash - 25th Anniversary Of The Marquee (1983)

1- Can't Fight Love2- Living Proof3- Open Road4- No More Lonely Nights5- Underground6- King Will Come7- Phoenix8- Engine Overheat

UFO - Strangers In The Night (Live)(1979)


1- Hot 'N' Ready2- Cherry (Bonus Track)3- Let It Roll (Bonus Track)4- Love To Love5- Natural Thing6- Out In The Street7- Only You Can Rock Me8- Mother Mary9- This Kids10- Doctor Doctor11- I'm A Loser12- Lights Out13- Rock Bottom14- Too Hot To Handle15- Shoot Shoot

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Christopher - Christopher (US Heavy Psychedelia 1970)

01. Dark Road02. Magic Cycles03. Wilbur Lite04. In Your Time05. Beautiful Lady06. Lies07. Disaster08. Wind09. Queen Mary10. Burns Decision

Banchee - Selftitled & Thinkin´ ( 1969 & 1971)

01. Night Is Calling02. Train Of Life03. As Me Thinks04. Follow A Dream05. Beautifully Day06. Evolmia07. I Just Don't Know08. Hands Of A Clock09. Tom's Island10. John Doe11. Willya12. 3-4 Song13. Thinkin'14. Searcher's Life15. Iceberg16. Children Of The Universe17. '38'
http://www.zshare.net/download/11175174caf80f81/

Savatage - Edge Of Thorns - 1993

Line-up:
Zachary Stevens - Vocais
Criss Oliva - Guitarra
Johnny Lee Middleton - Baixo
Steve Wacholz - Bateria
Tracklist:
01 - Edge Of Thorns
02 - He Carves His Stone
03 - Lights Out
04 - Skraggy's Tomb
05 - Labyrinths
06 - Follow Me
07 - Exit Music
08 - Degrees Of Sanity
09 - Conversation Piece
10 - All That I Bleed
11 - Damien
12 - Miles Away
13 - Sleep
http://www.4shared.com/file/38811484/4da8e184/Savatage_-_1993_-_Edge_Of_Thorns.html

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Heavy Mod - RateX (Full Album)


กับชุดแรกในชุด ห้ามออกอากาศ ในช่วงแรกที่ชุดนี้ออกมาเป็นเป็นเพลงใต้ดินทำออกมาไม่กี่เพลง แต่เพลงของเขากับโด่งดังอย่างรวดเร็ว ด้วยลีลาเพลงที่มันสะใจขาร็อค เนื้อหากินขาดเสียดสีการเมือง สังคม มีคนตามล่าหามาฟังกันยกใหญ่ จนต้องรีบออกอัลบั้มเต็มออกมาเรียกได้ว่าดังแบบไม่เลิกมีเพลงช้าบัลลาดที่น่าฟังอยู่2-3เพลงเป็นการร่วมตัวกันของมือกีต้าร์รุ่นเก๋าโดยส่วนใหญ่จะแตกวงมาจากวงตาวัน มีนักร้องนำหลายคนในชุดนี้ อย่าง Y NOT 7 , ไก่ วิษณุ เป็นต้น เพลงมีมากกว่า10เพลง ฟังกันจุใจจริงๆครับ ส่วนในชุดที่2ประชาธิปไตย ชุดนี้เรี่ยวแรงหมดเพราะทุ่มเทกับชุดแรกแบบเต็มอัตราศึกก็เลยล่วงไปหน่อยครับ
SideA.... เครื่องเซ่น(Inst.), คุณหญิงคุณนาย, พฤษภา, พลัง, ดาวหมา, สารเลว(Inst.)
SideB.... หน้ากาก, นึกแล้ว, แผ่นดิน, ทางด่วน, คืนหนึ่ง, เซ็ง
Producer: สุวิชัย โสภณปฏิมา
Co-Producer: พิเชษฐ์ เครือวัลย์, รุ่งโรจน์ ผลหว้า
Executive Producer: กิติพันธ์ ปุณกะบุตรนักดนตรี(ที่จริงรายละเอียดจะเป็นเพลง ๆ ไป คือแต่ละคนจะมีส่วนร่วมกับบางเพลง... ผมจึงขอสรุปไปเลย)
Drums Programmer... สุวิชัย โสภณปฏิมา, รุ่งโรจน์ผลหว้า
Drams... จิตรกร ปานกลีบ
Guitar.... พิเชษฐ์ เครือวัลย์, รุ่งโรจน์ ผลหว้า, จิราวุธ สังคกุล, วัฒนชัย พูลสวัสดิ์, ธานี พรหมศรี
Bass....... พิเชษฐ์ เครือวัลย์, รุ่งโรจน์ ผลหว้า
Vocal.... ร้องกันหลายคน.. วิษณุ, ไก่(สุวิชัย), เหน่ง(Ynot7), กอล์ฟ(Ynot7)
คำร้อง.... เกือบทั้งหมด โดย วิษณุ เทศขยัน(เจ้าของอัลบั้ม พระจันทร์ดวงเก่า)คำนำในปก(ส่วนหนึ่ง).... เพลงชุดนี้เกิดขึ้นจากคนหลายฝ่าย หลายอาชีพ.. มีทั้งนักธุรกิจ นักร้อง คนดนตรี รวมทั้งนักการภารโรง ตลอดจนกระทั่งคนทำรายการโทรทัศน์ คนทำสารคดี คนเขียนหนังสือ พ่อค้าขายไข่ไก่........ เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับ.. สังคม..เศรษฐกิจ.. การเมืองชุดนี้... อยู่เหนือคำนิยามจริง ๆ ครับ.. เป็นอัลบั้มที่ทรงคุณค่าที่สุดอัลบั้มหนึ่ง
ลิ้งค์ download อยู่ที่บอร์ด 320 KB ครับ

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Warhorse - Selftitled (1970)

01 Vulture Blood 6:1302 No Chance 6:2203 Burning 6:1704 St. Louis 3:5005 Ritual 4:5406 Solitude 8:4807 Woman of the Devil 7:1608 Ritual [live] 5:0609 Miss Jane [demo version] 3:3710 Solitude [live] 4:5211 Woman of the Devil [live] 6:4512 Burning [live] 6:09

Journey - Departure - 1980

1. Any Way You Want It2. Walks Like a Lady
3. Someday Soon4. People and Places5. Precious Time6. Where Were You
7. I'm Cryin'
9. Departure
10. Good Morning Girl
11. Stay Awhile
12. Homemade Love
http://www.filesend.net/download.php?f=55d5d14edb4f366e9319f64c89294bca

วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

“สูงสุดสู่อัศจรรย์” งานเดี่ยวที่ไม่ “ธรรมดา” ของ “กิตติ กีตาร์ปืน”


ถ้ามองย้อนกลับไปสักสิบยี่สิบปี วงการดนตรีบ้านเราต้องยอมรับนับถือฝีมือกีตาร์ของ กิตติ กาญจนสถิตย์ เจ้าของฉายา ”กีตาร์ปืน” แห่งวง ”คาไลโดสโคป” ยุคแรกว่าไม่เป็นรอง ”แหลม มอริสัน” แห่งวง ”วีไอพี” สองมือกีตาร์คู่นี้ขึ้นเวทีประชันกันมาตลอดชนิดเบียดไหล่กันโซโล ฝีมือกินกันไม่ลง สองคนนี้อีกนั่นแหละที่ออกงานโซโลอัลบั้มกันทั้งคู่ สำหรับ ”แหลม มอริสัน” ดูจะไม่ได้รับการกล่าวถึงมากนัก เพราะผลงานไม่เข้าตานักฟังรุ่นใหม่ ส่วนคอเก่ายังพอให้การสนับสนุนอยู่บ้าง สำหรับ “กิตติ กีตาร์ปืน” นอกจากจะมีเอกลักษณ์จากการสะพายกีตาร์รูปปืนแล้ว เอกลักษณ์อีกอย่างคือ ชอบนำเอาเทคนิค ”ทอล์ค บ็อกซ์” มาเล่นผสมผสานกับการโซโลกีตาร์ ผลงานเมื่อครั้งเล่นกับคาไลโดสโคปมีการบันทึกเสียงลงเทปและแผ่นเสียง แต่งานยุคนั้นเป็นงาน cover เพลงสากลล้วนๆ จึง ไม่โดดเด่นนัก แต่พอมาถึงงานโซโลเดี่ยวอย่างอัลบั้ม ”สายธารใต้ขุนเขา” ได้รับการตอบรับจากคอเพลงที่ชอบงานกีตาร์เป็นอย่างดี เรียกว่าผลงานดีมีแววน่าติดตาม พอมาถึงอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 “สูงสุดสู่อัศจรรย์” เมื่อฟังเปรียบเทียบกับสายธารใต้ขุนเขาแล้ว มองเห็นพัฒนาการของงานได้เป็นอย่างดี ฝีมือสมชื่ออัลบั้มคือขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้ว และเป็นที่น่ายินดีที่ ”กิตติ” รู้ตัวเองว่า ถ้าขืนยืนกรานเล่นเทคนิค ”ทอล์ค บ็อกซ์” เอาออกมาโชว์บ่อยๆ คนฟังอาจจะวิ่งหนีเอาได้ อัลบั้มนี้จึงมีเล็กน้อย นอกนั้นฝีมือกีตาร์ล้วนๆ อัลบั้มนี้ได้เพื่อนๆ น้องๆ มาช่วยงานกันเพียบ อาทิ โอฬาร พรหมใจ (โอ้) ศิริศักดิ์ ศิริโชตินันท์(หมู) มาร่วมแจมกีตาร์ ต้อม บุญนาค ,อ๊อด คาราบาว ,วิโรจน์ สถาปนาวัตร และ เคิร์ด ลี มาเล่นเบส ส่วนกลองได้ เอกมันต์ โพธิ์พันธ์ทอง เจ้าพ่อกลองสองกระเดื่องมาหวดให้ทั้งอัลบั้ม งานชิ้นนี้จะเรียกว่าเป็นการชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ของแท้ก็ว่าได้ แทร็คแรก ”สูงสุดสู่อัศจรรย์” เปิดตัวด้วยทอล์ค บอกซ์อันเป็นเอกลักษณ์ของ กิตติ กีตาร์ปืน ผสานกับเสียงเปียโน เมโลดี้นุ่มๆ ปูพื้น ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงโซโลกีตาร์หวานหยดย้อยด้วยเทคนิคคันโยกอันเป็นแนวถนัดของกิตติ ไลน์กีตาร์มีทั้งช้าเร็วนุ่มนวล กราดเกรี้ยว ไหลลื่นผสมผสานลงตัวสมกับเป็นไตเติลแทร็คจริงๆ “ผีเสื้อเหล็ก” ร็อกจังหวะกระชับ สองขุนพลกีตาร์คาไลโดสโคปสองยุคสองวัย กิตติ และหมู คาไลฯ ไล่บี้กันตลอดเพลง “แรงจัด” เพลงที่ 3 กลองสองกระเดื่องของเอกมันต์ แผลงฤทธิ์แล้วเพลงนี้ทั้งเบส กลอง กีตาร์ไล่ล่ากันกระชั้น เร่งเร้าหัวใจร็อกแอนด์โรลให้เต้นตึ้บ ๆ พาวเวอร์คอร์ดแผดสนั่นก่อนที่จะงัดความเร็วในการไต่เส้นลวดออกมาโชว์ เพลงนี้อัดกันมันสุดๆถ้าเล่นสดคงจะสนุกน่าดู แทร็คที่ยกนิ้วให้ ”กิตติ กีตาร์ปืน” ต้องฟัง ”นกนางแอ่น” แสดงว่าวิชั่นของกิตติหลุดพ้นจากความเป็นมือกีตาร์ร็อกธรรมดา หลุดจากคำว่า “กีตาร์ฮีโร่” เข้าสู่ชั้น ”โอเวอร์ออล” อย่าง สตีฟ มอส หรือ สตีฟ ฮาวว์ และสตีฟ แฮคเก็ต บรรลุกัน งานบรรเลงอะคูสติกกีตาร์จึงออกมาดีอย่างนี้ ถ้าเอาเพลงนี้มาเปิดให้ฟังโดยไม่บอกก่อนว่าเป็นงานของใคร คงต้องเข้าใจว่าเป็นงานของสุดยอดมือกีตาร์อิมพอร์ทแน่นอน เพลงถัดมาอย่าง “สายหมอกที่เชิงผา” หรือ “อารมณ์” และ ”ถ้ำค้างคาว” เป็นผลงานที่หลุดพ้นจากตัวตนความเป็น ”มือกีตาร์รุ่นเก่า” พิสูจน์ให้เห็นว่ากาลเวลาทำให้กิตติก้าวไปข้างหน้า มิใช่ฝีมือหยุดนิ่งอย่างเพื่อนรุ่นเดียวกัน แทร็คปิดท้าย ”ปรากฏการณ์” ฝีมือกีตาร์ของ ”โอฬาร พรหมใจ” ฟังเมื่อไหร่ก็จำได้เมื่อนั้น อินโทรนุ่มๆ พริ้วๆ สไตล์ ริชชี่ แบล็คมอร์กลายเป็นภาพลักษณ์ที่ติดตัวโอฬารมาตลอด ก่อนจะเข้าสู่ท่อนถนัดของกิตติที่เล่นคอนเสิร์ตครั้งไหน ก็ต้องได้ยินโซโลท่อนนี้ติดหู แทร็คนี้ทำออกมาในลักษณะ ”สตูดิโอเอาท์เทค” ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง งานอัลบั้มนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2538 แล้ว แต่ก็หาฟังไม่ง่ายนัก เพราะผลิตออกมาจำนวนจำกัด สำหรับมือกีตาร์รุ่นใหม่หรือนักฟังที่ชอบงานลักษณะนี้พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงกับงานระดับ ”มาสเตอร์พีซ”
download ได้ที่บอร์ด 320 kb ครับ

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

The Cult - Eletric - 1987


1. Wild Flower
2. Peace Dog
3. Lil' Devil
4. Aphrodisiac Jacket
5. Electric Ocean
6. Bad Fun
7. King Contrary Man
8. Love Removal Machine
9. Born To Be Wild (Steppenwolf Cover)
10. Outlaw
11. Memphis Hip Shake
Line-up:
Ian Astbury - Vocais
Billy Duffy - Guitarras
Jamie Stewart - Baixo
Les Warner - Bateria
http://www.mediafire.com/?3bm3xomtzwm